บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
ปี 2538 ------------ เพจเจอร์ที่วางอยู่ข้างตัวขยับเป็นจังหวะ เวลาสามทุ่มขณะนี้เพื่อน ๆ คงอ่านหนังสือกันอยู่ แล้วใครกันที่เพจมา "อยากรู้จักจังครับ เพื่อนให้เบอร์เพจมา จาก เคน" ชื่อเคนเหรอ ฟังดูดี แต่ว่าเป็นใครก็ไม่รู้ จะว่าไปชีวิตวัยรุ่นในโรงเรียนหญิงล้วนแบบเรา มันก็อยากมีแฟนเหมือนกัน แต่เดินไปทางไหน ก็เจอแต่ผู้หญิง บางคนก็คบผู้หญิงด้วยกัน แต่ฉันอยากคบผู้ชายมากกว่า อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวัน entrance แล้ว เพื่อน ๆ ต่างเลือกคณะที่ชอบ เด็กเรียนปานกลางอย่างฉันก็คงเลือกคณะที่สมกับตัว อีกอย่างที่บ้านก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย เป็นครอบครัวชนชั้นกลางธรรมดาทั่ว ๆ ไป ฉันไม่ได้ตอบเพจในตอนนั้น เพราะเริ่มง่วงนอนแล้ว อีกอย่างคือกะจะอ่านหนังสืออีกสักนิดนึงก่อนนอน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฉันและเพื่อน ๆ จบ ม.6 กันแล้ว เราต่างคนต่างก็มีหนทางเป็นของตนเอง รอยยิ้ม เสียงเพลง และรอยน้ำตาในวันปัจฉิมนิเทศ ยังแอบตราตรึงอยู่ในใจ ดีหน่อยที่สมัยนี้ถึงจะแยกย้ายไปเรียนที่ไหน เราต่างแลกเบอร์เพจกันไว้ เวลานึกถึงกันก็เพจหากันได้ ถ้าเป็นสมัยก่อน โทรไปที่บ้านถ้าไม่อยู่ก็ไม่ได้คุยกัน พูดถึงเรื่องผู้ชาย อันที่จริงฉันก็มีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว นั่นคือนายเล้งร้านขายข้าวสารที่หัวมุมถนน เล้งกับฉันเรียนโรงเรียนประถมเดียวกัน แต่คนละห้อง เราเคยคุยกันบ้าง หรือบางครั้งก็กลับบ้านด้วยกัน แต่ไม่ใช่ว่ารอจะกลับบ้านด้วยกันหรอก แค่บังเอิญเดินมาเจอกันตรงสองแถวเฉย ๆ บ้านอยู่ใกล้กัน ก็เลยกลับด้วยกัน แรกเริ่มเดิมทีอาศัยว่า เคยเรียนประถมที่เดียวกันก็เลยทักทายพูดคุยกันเฉย ๆ จนกลายเป็นว่าถ้าเจอกันตอนเย็น ก็จะกลับด้วยกัน เล้งเรียนที่โรงเรียนสหแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากโรงเรียนหญิงล้วนที่ฉันเรียน ฉันเองก็ไม่เคยสับสน ว่าฉันชอบเล้งหรือไม่ เอาจริง ๆ คือชอบเล้งนั่นแหละ แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกเล้ง เล้งมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อเสือที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน ฉันเจอนายเสือคนนี้บ่อย ๆ บ้านเสืออยู่แถว ๆ คิวรถสองแถว นั่นทำให้เล้งและเสือ เดินจากโรงเรียนมาด้วยกัน และเจอฉันที่เดินมาจากโรงเรียนเพื่อขึ้นสองแถว พอฉันกับเล้งขึ้นสองแถว เสือก็เดินเข้าซอยบ้านตัวเอง กลายเป็นฉันก็รู้จักนายเสือคนนี้อีกคน วันนี้อ่านหนังสือแค่นี้ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ไปใส่บาตรให้พี่ฉิ่ง ------------ ฉันออกมาใส่บาตรที่ริมถนน ใกล้ ๆ บ้านเล้ง แอบมองหน้าต่างบ้านเล้งนิดนึง เล้งคงยังไม่ตื่น แต่ร้านข้าวสารของเล้งเปิดแล้ว ทำให้ฉันไม่กล้ามองมากเท่าไหร่ หลังใส่บาตรและรับพรเสร็จ ฉันลุกขึ้นใส่รองเท้า หันหลังกลับเจอเสือพอดี "อ้าว สวัสดีเสือ" ฉันทัก เสือยิ้มหวาน เห็นเสือถือถาด คงจะมาใส่บาตรเหมือนกัน ฉันเลยไม่ได้ถามอะไรต่อ เราทักกันแค่นั้น เสือก็เดินกลับไป ตรงป้ายรอรถสองแถว ฉันเหลือบมองหน้าต่างบ้านเล้งอีกครั้ง ยังเหมือนเดิม ฉันเลยหันหลังเดินกลับเข้าซอยบ้านตัวเอง ฉันออกมาใส่บาตรให้พี่ฉิ่ง พี่ฉิ่งเป็นครูสอนพิเศษเคมีให้กับฉันตั้งแต่ ม.4 โดยเพื่อนบ้านที่เรียนชั้นเดียวกัน จ้างมาสอน ฉันก็ไปหารค่าเรียนกับเขา แต่น่าเสียดาย พี่ฉิ่งอายุไม่ยืน พี่ฉิ่งเสียไปจากอุบัติเหตุตอนฉันปิดเทอม ม.5 จะขึ้นเทอม 2 กว่าฉันจะรู้ก็เปิดเทอมไปแล้ว และก็มีครูคนใหม่ถูกส่งมาสอนพิเศษแทน โดยที่ฉันกับเพื่อนบ้านก็รู้แค่นั้นว่าพี่ฉิ่งเสียไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พอจบ ม.5 ฉันและเพื่อนบ้านก็ไม่ได้จ้างครูมาสอนเคมีอีกเลย เนื่องจากเพื่อนบ้านตั้งใจจะไปเรียนต่อเมืองนอก ส่วนฉันจะจ้างคนเดียวก็คงไม่ไหว เลยหยุดไว้แค่นั้น มาอ่านหนังสือเอาเองและอาศัยถามเพื่อนเก่ง ๆ ดีกว่า ในบรรดาเพื่อนเก่ง ๆ ที่ฉันมี ก็จะมี "น้ำ" เพื่อนที่สนิทมาตั้งแต่ ม.1 เรานั่งข้างกัน น้ำเป็นคนที่เรียนเก่งมาก ๆ และไม่หวงวิชาความรู้เลย น้ำจะคอยอธิบายตลอดเวลาที่เพื่อน ๆ ไม่เข้าใจ ปีนี้น้ำตั้งใจจะสอบเข้าแพทย์ ฉันเชื่อว่าน้ำทำได้ หลังจากจบ ม.6 ฉันกับน้ำก็ห่าง ๆ กันไป เข้าใจว่าเป็นช่วงอ่านหนังสือก่อนสอบ ฉันกลับมาถึงบ้านหลังจากใส่บาตรก็เตรียมตัวทานอาหารเช้า ที่บ้านฉันมี พ่อ แม่ น้องชายชื่อน้องแม๊กซ์ อายุอ่อนกว่าฉันสามปี และมีน้าเพ็ญ เป็นแม่บ้านที่อยู่กับครอบครัวของเราก่อนที่ฉันจะเกิดเสียอีก แม่เล่าให้ฟังว่าสมัยสาว ๆ น้าเพ็ญก็เป็นแม่บ้านแบบนี้แหละ จนขอลาไปแต่งงาน หายไปสี่ห้าปี สุดท้ายขอกลับมาเป็นแม่บ้านเหมือนเดิม เพราะสามีตาย ลูกก็ไม่มี น้าเพ็ญเลยกลับมาเป็นแม่บ้านตำแหน่งคงกระพัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มหมู ฝีมือน้าเพ็ญ พ่อ แม่ ไปทำงาน และแม๊กซ์ซึ่งเรียนอยู่ ม.3 ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว หลังจากทานอาหารเช้า ฉันก็กลับไปอ่านหนังสือบนห้อง ได้ยินเสียงน้าเพ็ญเรียกเจ้าทอง สุนัขพันธ์ุไทยของครอบครัวเข้าบ้าน ------------ อ่านหนังสือไปจนบ่าย เพจเจอร์ขยับอีกครั้ง.... โปรดรออ่านต่อบทที่ 2
0 Comments
Your comment will be posted after it is approved.
Leave a Reply. |
Miss Honeynut เป็นคนชอบเขียนนั่นนี่มาตั้งแต่เด็ก สมัยที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตก็เขียนลงสมุดไดอารี่ ตั้งใจจะเขียนไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำ Archives
March 2023
Categories
All
|