BSC Marvelous Skin dirt Removal scrub ตัวนี้ซื้อมาพร้อมเปิดคอร์สนวดหน้า ชาติกว่ายังไม่มีทีท่าจะหมด เพราะใช้ทีนึงไม่มาก จี๊ดเดียวประมาณเหรียญบาทค่ะ ราคา 690 ขนาด 100 กรัม ข้อดี : หอม สครับเม็ดละเอียดกำลังดี (เป็นเม็ดแบบกากน้ำตาล) ไม่เจ็บหน้าเกินไป ใช้ได้นาน จนตัวอื่นหมดแล้ว อันนี้ยังอยู่ เพราะมันหลอดใหญ่มาก ถ้าสครับอย่างสม่ำเสมอก็ถือว่าคุ้มนะคะ **รีวิวต่าง ๆ นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และความพึงพอใจที่แตกต่างกัน ขอให้ใช้วิจารณญาณในการจับจ่ายนะคะ
0 Comments
บทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 54 สมัยไปเที่ยวฮ่องกงนะคะ หลังจากนั้นก็ไปฮ่องกงอีกสองครั้งแต่ก็ไม่เจออีกเลย (ไม่ต้องเจอก็ได้ ไม่ได้ว้อนท์ขนาดนั้น) จริง ๆ ไม่นึกว่าจะได้มาเล่าเรื่องแบบนี้ เคยอ่านเจอเรื่องแบบนี้มาก็มาก แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง เริ่มเลยแล้วกันเนอะ หลายคนคงเคยได้ยินมาเนอะ ว่าเวลาเดินทาง ขึ้นเครื่องบิน ใครฝากของอะไรไม่ให้รับฝากลงกระเป๋า หรืออะไรก็ตาม เราเองเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มานานแล้วค่ะ แต่ก็ไม่คิดจะเจอกับตัว
หลังจากไปเที่ยวเริงร่าที่ฮ่องกง ก็ถึงเวลากลับบ้านกันสักที ด้วยความที่มาถึงสนามบินของฮ่องกงก่อนเคาน์เตอร์เปิด เรานั่งรอกับเพื่อน ๆ อยู่นาน เคาน์เตอร์ก็ยังไม่เปิด จึงบอกเพื่อนขอไปเดินยืดเส้นยืดสายดีกว่า โดยผลัดกันเฝ้ากระเป๋าไว้ค่ะ เราเดินไปเรื่อย ๆ ดูเคาน์เตอร์อันนั้นอันนี้ รวมทั้งจะมาเดินดูว่าเคาน์เตอร์ของสายการบินของเราเปิดให้เช็คอินหรือยัง เดินอยู่เพลิน ๆ กำลังสนใจมองที่ชุดแต่งกายสตรีที่นักท่องเที่ยวชาวแอฟริกันสวมใส่ (กำลังเดินผ่านสายการบินเอธิโอเปีย) "ไปไหนน่ะ" เสียงไม่คุ้นหูร้องทักเป็นภาษาไทย ด้วยสัญชาตญาณจึงหันกลับไปมอง พบหญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมย้อมผมสีแดงสวมชุดสีดำยิ้มให้ ฉันไม่ตอบ เดินต่อ เพราะหันไปมองหน้าแล้วไม่รู้จัก เขาคงทักคนอื่น "น้องน่ะแหละ" หญิงคนเดิมเรียกอีก "หนูหรือคะ" ฉันตอบ "ใช่ ๆ ไปไหนน่ะ กลับกรุงเทพหรือเปล่า" "ค่ะ" ฉันตอบสั้น ๆ เธอถามถึงสายการบินที่เราไป เราก็บอกไป เธอกลับบอก "พี่ขอแชร์น้ำหนักของหน่อยสิ เนี่ยเราบินสายการบินเดียวกัน" หญิงคนนั้นกล่าว "ของหนูกับเพื่อนเยอะมากเลยพี่ไม่รู้จะพอหรือเปล่า" ฉันตอบ "ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เคาน์เตอร์จะเปิดทุ่มนึง เดี๋ยวเราไปเช็คอินด้วยกันนะ พี่จะพาไปเช็คอิน" "พี่ไปสายการบินนี้เหรอ" ฉันถาม เพราะยืนอยู่ตรงเอธิโอเปียนี่นา ไม่ใช่สายการบินของเราซะหน่อย "เปล่า ๆ อันนี้พี่มาเทคแคร์ลูกค้า" หญิงชุดดำตอบ ฉันจึงผละออกไป เดินเล่นไปเรื่อย ๆ หรือหญิงชุดดำจะเป็นไกด์ แล้วทำไม ไกด์ไม่บินไปกับลูกทัวร์ แยกสายการบินทำไม ฉันนึกเอะใจ สงสัยโดนดีแน่แล้ว แต่จะทำยังไง เพราะดูว่าเธอจับจ้องฉันตลอดเวลา ฉันจึงกลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง ทุกคนเห็นตรงกันว่าไม่ควรให้ฝาก เพราะเกิดเป็นของผิดกฏหมายขึ้นมา งานเข้าใหญ่หลวงแน่ เนื่องจากของพวกเราเยอะจริง ๆ ค่ะ จึงผลัดกันเฝ้า ผลัดกันเดินเล่น โชคดีที่เรานั่งกันไกลมากจากจุดเช็คอิน หญิงชุดดำจึงไม่ได้เห็นว่ากลุ่มเรามีใครบ้าง ถึงคิวฉันไปเข้าห้องน้ำ บังเอิญเจอเพื่อนที่ออกมาเดินเล่นก่อน ทักกันนิดหน่อย หญิงชุดดำเปิดประตูห้องน้ำมาประชิดตัวฉันทันที เนื่องจากเพื่อนรู้ตัวอยู่แล้ว เลยเดินหนีไป ทำเป็นไม่รู้จักกัน "น้อง ๆ ของน้องอยู่ไหน" "อยู่กับเพื่อนค่ะ" "เดี๋ยวเคาน์เตอร์เปิดเดินมาหาพี่เลยนะ" เธอสั่ง ฉันรีบออกจากห้องน้ำ เลยบอกเพื่อนเราต้องสลายตัวกันแล้ว เพราะเธอจ้องประชิดตัวมาก เลยตกลงกันว่าให้เพื่อนที่หน้าตา "ไม่ไทย" เป็นคนต่อแถวเช็คอิน แล้วฉันจะโผล่มาตอนถึงคิว ฉันเดินเล่นไปมา หญิงชุดดำเข้ามาคุยด้วยหลายครั้ง เธอวิ่งวุ่นวายเหมือนไกด์ทัวร์ คุยกับคนนั้นคนนี้ เรานึกแปลกใจ แล้วทำไมต้องมาแชร์น้ำหนักกับเรา ไม่แชร์กับลูกทัวร์ล่ะ "น้อง ๆ ของไปไหน" เธอถามเมื่อเห็นฉันเดินตัวปลิว "เนี่ยหาเพื่อนไม่เจอ" ฉันตีหน้าเศร้า (เพื่อนยืนทำหน้าเกาหลีอยู่ข้าง ๆ นั่นแหละ ทำเป็นดูประกาศต่าง ๆ) "พาสปอร์ตหนูก็อยู่กับเพื่อน" ฉันตอบแล้วเดินหนีมาเลย ฉันไปหลบมุมจนใกล้ถึงคิว เดินผ่านหญิงชุดดำ ฉันยิ้มให้ เธอกลับหน้าบึ้งใส่ วิ่งไปต่อแถว business class ฉันคิดว่าเธอคงไปอ้อนขอชั้น business แชร์ได้แล้วมั๊ง เช็คอินเสร็จ เพื่อนเล่าให้ฟังว่า มีเรื่องตอนเราหลบไป หญิงชุดดำวิ่งวุ่นไปทั่ว จะขอแชร์น้ำหนักคนนั้นคนนี้ เพราะของเธอ 41 กิโล จนสายการบินต่อว่า ฝรั่งในแถวก็ต่อว่า อ๋อมิน่า เลยมาหน้าบึ้งใส่ คงโดนว่ามา แถมตอนฉันจะเช็คอิน เจ้าหน้าที่ถามแล้วถามอีกว่ามาด้วยกันใช่ไหม ขอบคุณสายการบินมาก ที่ใส่ใจสังเกตนะคะ เจ้าหน้าที่คงมีประสบการณ์แบบนี้บ่อย เช็คอินเสร็จมาถึงหน้าเกต ก็ไม่พบหญิงชุดดำคนนั้นเลย ไหนบอกบินพร้อมกัน ตอนรับกระเป๋าที่ไทยก็ไม่มี ไหนบอกบินพร้อมกัน เรื่องราวปะติดปะต่อกันได้ คิดเองว่า เธอคงวิ่งวุ่นหาคนฝากกระเป๋า โดยที่ตัวเองไม่ได้บินมาด้วย ถึงเวลาคงให้เราหิ้วออกจากด่านตรวจ มีคนมารอรับ ถ้าถูกจับคนซวยคือเรา เพราะชื่อที่แปะที่กระเป๋าก็ต้องเป็นชื่อเราเพราะเราเป็นคนโหลด ขอบคุณเว็บพันทิป และสื่อต่าง ๆ ที่ทำให้เรารู้กลของพวกนี้ และไม่หลงเชื่อ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ไม่งั้น เราคงเป็นเหยื่อไปแล้ว แล้วกลโกงแบบนี้มีมาเป็นสิบปีจนเราคิดว่าเลิกใช้ไปแล้ว ก็ขอมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ผู้ที่ยังไม่ทราบจะได้ระวังตัวด้วยนะคะ นี่ขนาดเรารู้ ยังเกือบ ปล. ถ้าคุณผู้หญิงชุดดำคนนั้นมาอ่าน แต่ไม่มีเจตนาร้าย เราก็ขอโทษนะคะ แต่เราก็ไม่สะดวกใจที่จะแชร์น้ำหนักอยู่ดีแหละค่ะ 30 กิโลของเราถึงเราใช้ไม่ครบมันก็เป็นสิทธิ์ของเราค่ะ แม้เราจะโหลดกระเป๋าเปล่า มันก็เป็นสิทธิ์ของเราค่ะ ถ้าของคุณเกินคุณต้องบริหารจัดการเองค่ะ ปล.เคยโพสกระทู้นี้ในพันทิปค่ะ ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำด้วย (ครั้งแรกครั้งเดียวในชีวิตเลย) กระทู้นี้ค่ะ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/08/E10896797/E10896797.html
วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกับน้องไหมค่ะ น้องไหม เป็นแมวที่เราเลี้ยงมานานเลยทีเดียว และเป็นแมวตัวนึงที่เลี้ยงมานานที่สุดเช่นกัน
เจอน้องไหมครั้งแรกเมื่อปี 2547 ไว้เดี๋ยวจะมาเล่านะคะว่าเจอกันยังไง กับน้องไหมก็อยู่กันมาสิบปีแล้วล่ะ โดยอุปนิสัย ถือว่าน้องไหม เป็นแมวชนิดขี้อาย โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า ขนาดมีคนมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านนู่น นางขึ้นหลังตู้ก่อนเลย
จากที่แรกเริ่ม แม่เป็นคนไม่ชอบแมว แต่ก็เป็นคนรักสัตว์ ก็เลยยอมให้เอาน้องไหมมาเลี้ยง เลี้ยงไปเลี้ยงมา แม่เอาไปนอนด้วยเลย (ไหนว่าไม่รักไง) น้องไหมก็กลายเป็นที่รักของบ้านโดยไม่รู้ตัว
ที่จะบอกว่า ผ้าขาวม้าของพ่อเนี่ย เรื่องของเรื่องคือนางชอบมานอนตรงนี้นี่เองค่ะ
ตรงนี้เป็นที่แขวนผ้าต่าง ๆ เช่นผ้าเช็ดตัว ผ้าขาวม้า น้องไหม มานอนตรงนี้ประจำ โดยที่ผ้าขาวม้าของพ่อนี่ของโปรดเลย ดึง ฉก ตะปบ กัด ฮ่าฮ่า ความสุขสไตล์แมว ๆ เขาล่ะ วันนี้ขอเล่าเรื่องน้องไหมแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
"เศรษฐกิจมันแย่.... โดยเฉพาะในกระเป๋าสตางค์ของเรา"
พูดถึงเรื่องเงินทีไร เครียดทุกที คิดว่าทุกท่านอาจจะเคยเป็นกันบ้างในบางช่วงใช่ไหมคะที่ดูเหมือนว่า สภาพคล่องทางการเงินจะไม่ค่อยดี ส่วนตัวเองนี้เคยแบบว่ามี 0 บาททั้งเนื้อตัวและในบัญชีเลยทีเดียว ทีนี้จะทำยังไงได้บ้างที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มเข้ามามากขึ้น โอเคหละ ว่ามีงานประจำอยู่แล้ว แต่มันก็น่าจะดีกว่าที่จะมีรายได้เพิ่มเข้ามามากขึ้น ไอ้เราที่ว่าไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ไม่มีสตางค์ก้ไม่รู้จะทำอะไร ก็ search net ดู มีทำงานผ่านเน็ต ให้ฝากเบอร์ไว้ ไม่เอาอ่ะ กลัวจับไปนั่งฟังประชุม ไปขายของอะไรแบบนี้ไม่ใช่งานถนัด ก็มาเจออันนี้ค่ะ คลิกโฆษณา
ก็ดูเหมือนจะคลิกโฆษณาจริง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง แถมเป็นเว็บภาษาไทยจริง ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา แล้วที่อ่าน ๆ มา เขาก็เปิดเว็บนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว
วิธีการสมัคร ก็คือ กดที่นี่ หรือที่แถบแบนเนอร์สีเหลืองข้างบน สมัครเสร็จเรียบร้อย ทางไทยแอดพอยต์จะส่งอีเมล์ไปตามเมล์ที่เรากรอกสมัครไว้ เราต้องกดยินยัน หรือ verified ในอีเมล์ เพื่อยืนยันว่าเรามีตัวตนจริง ๆ นะคะ ซึ่งการสมัคร กับ ไทยแอดพอยต์ นี้ เราไม่ต้องเสียค่าสมัครใด ๆ โดยการทำงานของ ไทยแอดพอยต์ เขาจะเป็นการให้เรากดโฆษณาที่เขาโชว์ในเว็บ ดูโฆษณาละ 30 วินาที ถ้าทำทุกวัน เราก็จะมียอดเงินสะสมไปเรื่อย ๆ แค่กดดูแค่นั้นแหละค่ะ อ้าว แล้วอยู่ดี ๆ เขาเอาตังค์มาจ่ายเราทำไม คือ ไทยแอดพอยต์ เนี่ย เขาก็รับค่าโฆษณาจากบริษัทที่จ้างให้เขาโฆษณาให้ บริษัทที่มาจ้างก็อยากเพิ่มโอกาส ให้มีคนรู้จักบริษัทเขา คือเขาก็หวังให้เราสนใจบริษัทเขาแหละค่ะ ยิ่งถ้าเราเข้าทำกิจกรรมกับบริษัทที่มาลงโฆษณา ก็อาจได้ยอดเงินสะสมเพิ่มขึ้นด้วย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่เขาตกลงไว้กับ ไทยแอดพอยต์ นะคะ) มีอีกวิธีนึง คือการหาคนมาสมัครต่อจากเรา คือแนะนำคนอื่นนั่นเอง เราจะได้ 5% จากที่เขาทำได้ในแต่ละเดือน ถามว่าส่วนตัวได้ตังค์ยัง ยังค่ะ ก็กดไปเรื่อย ๆ วันละนิดวันละหน่อย ลองดูนะ
ทุก ๆ เช้าวันเสาร์ อาทิตย์ รับหน้าที่จ่ายตลาดตอนเช้าให้ที่บ้านค่ะ ซื้อของเสร็จตัวเองก็จะหากาแฟ-ชา ดื่ม ก่อนกลับบ้าน
ก็มาเจอกาแฟร้านนี้ค่ะ อยู่ในซอยที่ติดกับตัวตลาดสดรามอินทรา กม.2 บ้านกาแฟ บิสมีละห์
ในร้านคนนั่งเยอะเลยทีเดียว สั่งชาเย็น สั่งเสร็จก็เตรียมแบงค์ใหญ่รอเลย
พอคิดเงิน อะไรนะ ชาเย็น 25 บาท
มาดูเมนู น่าจะเป็นเมนูเก่าแล้ว เห็น 17 บาทซีด ๆ (ข้างล่างมี แดงโซดา บ๊วย ไข่ลวก เป๊บซี่ อีกตะหาก เห็นลุง ๆ ที่มาตอนเช้า บางคนก็สั่งไข่ลวกเหมือนกัน)
บางวันก็มีแซนวิชทูน่าบ้าง ไก่บ้าง บางวันมีกับข้าวด้วย เขาจะติดป้ายไว้วันนี้มีอะไรพิเศษ
หน้าร้านมีรถมอเตอร์ไซค์จอดไว้น่ารักทีเดียว (เหมือนภาพข้างบนแหละค่ะ)
บรรยากาศร้านก็มีเปิดเพลงคันทรี่น้อย ๆ คลอไปด้วย ถ้าจะนั่งทานที่ร้านก็นั่งโล่ง ๆ หน้าร้านได้เลย สองแก้ว ก็ 50 บาท บางร้านราคานี้ได้แก้วเดียว ถ้าเป็นชานะคะ พี่เขาจะชงให้แบบชาชัก หอมแบบชาชักเลยทีเดียว ถ้าให้แนะนำนะ ก็ลองชาชักดีกว่า
วันถัด ๆ มาลองชาร้อนบ้างสิ ชาร้อนกับปาท่องโก๋ ทานปาท่องโก๋ไปสองตัว รวมกับค่ากาแฟ เป็น 20 บาท
เป็นอีกร้านเล็ก ๆ ที่ชงกาแฟ อย่างบรรจง และยิ้มแย้มแจ่มใส แถมอร่อยด้วยราคา 20 บาท
หาได้ในกรุงเทพนี่หละ ปล. ร้านหยุดทุกวันศุกร์นะคะ พิกัด https://www.google.co.th/maps/place/13%C2%B051'44.6 %22N+100%C2%B036'54.5%22E/@13.862398,100.615143, 18z/data=!3m1!4b1!4m2!3m1!1s0x0:0x0?hl=en |
Miss Honeynut เป็นคนชอบเขียนนั่นนี่มาตั้งแต่เด็ก สมัยที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตก็เขียนลงสมุดไดอารี่ ตั้งใจจะเขียนไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำ Archives
March 2023
Categories
All
|